ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
สภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย เป็นคาบสมุทรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีรูปร่างคล้ายรูปขวานโบราณ หรือเรียกกันว่า "ขวานทอง" มีด้ามขวานซึ่งเรียกตามภูมิศาสตร์ว่า คาบสมุทรมาลายาหรือมาลายู แบ่งทะเลออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งทะเลอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน มีระยะทางตามแนวชายฝั่งรวมกันประมาณ 3, 148. 23 กิโลเมตร โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. ฝั่งทะเลอ่าวไทย มีความยาวชายฝั่งทั้งสิ้น 2, 055. 18 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนของทะเลจีนใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก ลักษณะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยแบ่งออกได้ 2 ส่วน ตามลักษณะของภูมิภาคของประเทศไทย คือ 1. 1 อ่าวไทยด้านตะวันออก ได้แก่ บริเวณฝั่งทะเลตั้งแต่จุดกึ่งกลางระหว่างปากแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางด้านทิศตะวันออก จรดเขตแดนประเทศกัมพูชา บริเวณบ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด หรือตั้งแต่จังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ชายฝั่งทะเลด้านนี้จะได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคม 1.
ฝั่งทะเลยกตัว (emerged shoreline) ฝั่งทะเลที่เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกหรือทะเลลดระดับลง ทำให้บริเวณที่เคยจมอยู่ใต้น้ำโผล่ผิวน้ำขึ้นมา รูปร่างของแนวชายฝั่งมักเรียบตรง ไม่ค่อยเว้าแหว่งมาก เช่น ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก หรือฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงจังหวัดนราธิวาส ชายฝั่งทะเลยกตัว บางแห่งมีฝั่งชันเป็นภูเขา เนื่องจากภูมิประเทศเดิมที่อยู่ใต้ทะเลมีความลาดชันมาก เช่น ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก บริเวณอ่าวพัทยา อำเภอสัตหีบ และอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นต้น 3.
0 - 1. 3 เมตรต่อวินาที ไหลจากทิศตะวันออกเข้าสู่ทะเลอันดามัน ( Brown 2007 อ้างถึง Wyrtki 1973 และ Tomczak & Godfrey 1994) เช่นเดียวกับการศึกษาของ Rizal และคณะ ( 2012) ที่ใช้แบบจำลองกระแสน้ำเชิงตัวเลขที่รวมถึงอิทธิพลของกระแสน้ำขึ้น-น้ำลง ลม และการแลกเปลี่ยนความร้อน เพื่อศึกษาการกระแสน้ำที่ผิวในทะเลอันดามันและได้ผลสอดคล้องกับการศึกษาในอดีต รูปที่ 1. 2 การไหลเวียนของกระแสน้ำเฉลี่ยที่ผิวหน้าทะเลในอ่าวไทยเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ( ที่มา: Sojisuporn 2010) รูปที่ 1. 3 การไหลเวียนของกระแสน้ำเฉลี่ยที่ผิวหน้าทะเลในอ่าวไทยเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน รูปที่ 1. 4 การไหลเวียนของกระแสน้ำเฉลี่ยที่ผิวหน้าทะเลในอ่าวไทยเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน รูปที่ 1. 5 การไหลเวียนของกระแสน้ำเฉลี่ยที่ผิวหน้าทะเลในอ่าวไทยเดือนเดือนตุลาคม รูปที่ 1. 6 การไหลเวียนของกระแสน้ำในทะเลอันดามัน ภายใต้อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ( ที่มา: Rizal et. al., 2012) รูปที่ 1. 7 การไหลเวียนของกระแสน้ำในทะเลอันดามัน ภายใต้อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กระแสน้ำในทะเลอันดามันในช่วงมรสุมมีความแรงต่ำกว่าในช่วงเปลี่ยนมรสุม ในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกระแสน้ำในทะเลอันดามันมีทิศจากใต้ไปทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ เนื่องจากมี North equatorial Current ที่มีความเร็ว 0.
3 เมตรต่อวินาที ไหลจากช่องแคบมะละกาผ่านทะเลอันดามันไปยังศรีลังกา ส่วนในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนกระแสน้ำมหาสมุทรอินเดียตอนบน ( norther Indian Ocean) ( ความเร็ว 0. 7 เมตรต่อวินาที) ช่วงเปลี่ยนมรสุมทั้งสองช่วงมีกระแสน้ำแนวศูนย์สูตรของมหาสมุทรอินเดีย ( Indian Rizal และคณะ ( 2012) ที่ใช้แบบจำลองที่รวมถึงอิทธิพลของกระแสน้ำขึ้น-น้ำลง โดยที่รูปที่ 1. 6 แสดง การไหลเวียนของกระแสน้ำในทะเลอันดามัน ที่เกิดจากกระแสน้ำขึ้น - น้ำลง ลมและการถ่ายเทความร้อนภายใต้อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนรูปที่ 1.
กระแสน้ำ คือ การเคลื่อนที่ของมวลน้ำทะเลแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ กระแสน้ำผิวน้ำ (Surface current) เกิดตามทิศทางของกระแสลม และกระแสน้ำลึก (Deep water flow) มีผลให้มวลน้ำเกิดการเคลื่อนไหวตามความแตกต่างของความหนาแน่นของน้ำทะเล ส่วนใหญ่กระแสน้ำลึกจะมีอัตราการไหลที่ค่อนข้างช้าและสวนทางกับทิศทางการไหลของกระแสน้ำผิวน้ำ โดยมีความแตกต่างของทั้ง 2 ฝั่งทะเลดังนี้ 3. 1 ฝั่งทะเลอ่าวไทย ส่วนใหญ่จะไหลเลียบแนวชายฝั่งจากใต้ขึ้นเหนือ และมีอิทธิพลต่อพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งในพื้นที่ปากแม่น้ำจะมีอิทธิพลของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงมาผสมอีกแรง ซึ่งถ้าน้ำขึ้นน้ำลงเป็นชนิดน้ำเดี่ยวจะมีความแรงกว่าน้ำคู่ ทั้งนี้ขึ้นกับช่วงมรสุมในแต่ละฤดูและความเฉพาะของพื้นที่เป็นสำคัญ 3. 2 ฝั่งทะเลอันดามัน กระแสน้ำจะไหลแรงในแนวเหนือ - ใต้มากกว่าในแนวทิศตะวันออก - ตะวันตก ซึ่งจะมีผลต่อการสะสมของตะกอนที่ชายฝั่ง โดยกระแสน้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล 4. ลมบกและลมทะเล เป็นลมประจำถิ่นเกิดบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง แบ่งเป็น 4. 1 ลมบก จะพัดจากฝั่งออกสู่ทะเลในเวลากลางคืน เนื่องจากแผ่นดินมีอุณหภูมิลดลงเร็วกว่าผิวน้ำทะเล มวลอากาศร้อนจากทะเลจะลอยตัวเข้าสู่ฝั่งและมวลอากาศเย็นจากฝั่งจะไหลลงต่ำออกไปสู่ทะเล 4.
เกาะกุฎี เกาะกุฎี ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (ต้องเสียค่าเข้าอุทยาน) และอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร ใกล้กับเกาะกุฎีมีเกาะขนาดเล็กอีก 2 เกาะ คือเกาะท้ายค้างคาวและเกาะถ้ำฤๅษี มีหาดทรายสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ อีกทั้งยังมีแนวปะการังตลอดชายฝั่งให้ได้ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ยลโฉมความงามของโลกใต้ทะเล โดยมีหน่วยพิทักษ์อุทยานตั้งอยู่บนเกาะ ทั้งนี้สามารถติดต่อเช่าเรือจากบ้านเพได้ ซึ่งบนเกาะมีบริการบ้านพักของอุทยานตั้งอยู่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 3865 3034 5.