ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
ย้อนไปตอนมัธยมปลาย พี่เรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ คงเหมือนกับเด็กวัยรุ่นหลายคนที่กำลังค้นหาตัวเองว่าเราชอบอะไรกันแน่ ตอนนั้นพี่ลองทำหลายอย่าง มีทั้งชอบบ้างและไม่ชอบบ้าง จนมีโอกาสได้ร่วมมือกับเพื่อนในห้องอีก 3 คนลองทำเว็บ Dek-D ขึ้นมา พอได้ใช้ชีวิตอยู่กับคอมพิวเตอร์มากๆ ปรากฏว่า เฮ้ย นี่แหละ ใช่เราเลย ตอนนั้นตัดสินใจค่อนข้างแน่ชัดว่าจะเรียนต่อด้านนี้ในระดับมหาวิทยาลัย พอตอน ม. 6 มีโอกาสได้ลองสอบชิงทุน ปรากฏติด 3 ทุนคือ ทุนโอลิมปิก พสวท. ทุน ก. พ. และทุนธนาคารแห่งประเทศไทย สุดท้ายพี่เลือกทุนธนาคารแห่งประเทศไทยครับ (ปัจจุบันทั้ง 3 ทุนยังมีแจกอยู่ทุกปีนะครับ) ต้องบอกก่อนว่า เวลาที่นักเรียนไทยได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา ส่วนมากเค้าจะให้เราไปเรียนปรับพื้นฐานก่อน 1 ปีในโรงเรียนมัธยม พูดง่ายๆ เหมือนเราจบ ม.
ถ้าคุณจะสมัครเรียนวิศวกรรมศาสตร์ คุณต้องมีคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ดี ซึ่งการพูดถึงความรู้เกี่ยวกับด้านที่คุณสนใจจะสมัครก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าเรียนได้ค่ะ นักศึกษาควรตรวจสอบกฎเกณฑ์ ข้อกำหนดในการสมัครเข้าเรียนโดยตรงกับทางมหาวิทยาลัย มีสาขาอะไรให้เลือกเรียนบ้าง?
Application Guideline สำหรับสมัครเข้าศึกษาในภาคเรียนกันยายน 2022 ออกแล้ว!!!
ผมไม่มีมีจุดประสงค์อะไรในการตั้งกระทู้นี้ ผมเพียงแต่อยากทราบเพื่อเป็นแรงบัลดาใจว่า มีคนที่ทำได้จริงๆ ผมอยากจะทราบว่ามีพอวิศวกรชาวไทยท่านใด ที่ทำงานเป็นวิศวกรในประเทศที่ใช้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ เช่น แคนะดา สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์อยู่บ้างมั้ยครับ ผมขอบคุณทุกคำตอบเลยนะครับที่ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจให้ผมคนนี้ แสดงความคิดเห็น
มันไม่เชิงครับ ถ้าตอบให้ตรงจุดคือเค้าคัดเลือกคนที่เก่ง และคนเก่งหัวกะทิส่วนมากก็มักไปกองกันอยู่ในสถาบันดังๆ นั่นเอง สุดท้ายก็ขอเลือกประเทศไทย นอกจากจะทำงานที่ Oracle แล้ว พี่มีโอกาสได้ลองจับธุรกิจพวกสตาร์ทอัปอยู่หลายตัวครับ บอกเลยว่าถ้าใครมีความสามารถมีไอเดีย หาเงินได้ในอเมริกาแน่นอน เพราะคนอเมริกาเค้าพร้อมจะลงทุน เป็นพวกทุนนิยมที่แท้จริง ส่วนตอนนี้พี่กลับมาไทยได้หลายปีแล้วครับ พออยู่ต่างประเทศนานๆ เราจะเริ่มถามตัวเองว่า เอ๊ะ ชีวิตที่เหลือเราจะไปอยู่ไหนดี อยู่นี่ต่อหรือกลับไทย? ซึ่งพี่ก็ตัดสินใจเลือกชอยซ์หลังครับ แต่อยากฝากน้องๆ ที่สนใจไปเรียนต่อหรือหาประสบการณ์ในต่างประเทศว่า มันคุ้มค่ามากจริงๆ หลายๆ อย่างที่เจอมันคือปัญหา แต่ทักษะต่างๆ โดยเฉพาะทักษะการเอาตัวรอดจะทำให้เรามองว่า นี่มันไม่ใช่ปัญหา และหาทางแก้ไขให้ได้ ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดีครับ อ่านจบแล้วอยากชูป้ายไฟให้พี่แชร์เลยค่ะ น่าจะเป็นครั้งแรกที่พี่แชร์บอกเล่าประสบการณ์ละเอียดยิบขนาดนี้ (ทีมงาน Dek-D เองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน 5555) หากน้องๆ คนไหนอยากมีโอกาสไปทำงานในซิลิคอนวัลเลย์แบบพี่แชร์ล่ะก็ อย่าลืมวางแผนการเรียนและมองหาหนทางดีๆ นะคะ เตรียมตัวก่อน มีสิทธิ์ก่อนนะเออ!