ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
ลืมขอใบกำกับภาษีเต็มรูป อีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่พลาดกันเยอะคือ การขอเอกสารหลักฐานในการซื้อสินค้าและบริการให้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด นั่นคือ ต้องออก " ใบกำกับภาษีเต็มรูป " หรือ " ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป " จากร้านที่ซื้อเพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นภาษีด้วย หากไม่มีเอกสาร หรือมีแค่เซลล์สลิป หรือใบเสร็จรับเงินใบเล็กๆ ก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ สามารถดูตัวอย่างใบกำกับภาษีเต็มรูป และข้อมูลที่ต้องมี คลิกที่นี่ 3. เข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ก่อนจะออกไปช้อป อีกเรื่องที่ไม่รู้ไม่ได้คือ เกณฑ์การลดหย่อนภาษี จากโครงการช้อปดีมีคืนที่มีหลักเกณฑ์การคำนวณตามภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หมายความว่า ผู้มีเงินได้จะไม่ได้สิทธิคืนภาษี หรือลดหย่อนภาษีเท่ากันทุกคน แต่จะได้สิทธิมากหรือน้อย หรือไม่ได้รับสิทธิเลยขึ้นอยู่กับ " อัตราภาษี " ที่แต่ละคนต้องจ่าย ตามตารางต่อไปนี้ ----------------------------------------------------------- อ้างอิง: กรมสรรพากร, iTAX พิสูจน์อักษร โดย.... สุรีย์ ศิลาวงษ์
การเงิน 04 ก. พ. 2565 เวลา 13:00 น. 37. 9k ทบทวนให้ดี! "ช้อปดีมีคืน" ปี 2565 ต้องทำให้ถูกเงื่อนไข สรุป 3 จุดสำคัญที่คนพลาดบ่อย จนอาจเสียสิทธิ "ลดหย่อนภาษี" ปี 2565 ไปฟรีๆ " ช้อปดีมีคืน " 2565 อีกหนึ่งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลที่ยังดำเนินการอยู่ โดยเปิดให้ประชาชนจับจ่ายที่โครงการกำหนดได้จนถึงวันที่ 15 ก. 65 ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้าร่วมช้อปดีมีคืน ไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ เพียงซื้อสินค้าและบริการตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด และขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมาเป็นหลักฐานเพื่อประกอบการยื่นภาษี ในปีภาษี 2565 (ยื่นภาษีช่วง 1 ม. ค. - 31 มี. 66) เนื่องจากระยะเวลาการซื้อสินค้าและการยื่นภาษีทิ้งช่วงค่อนข้างห่าง ทำให้หลายคนอาจจะพลาดในจุดสำคัญจนเสียสิทธิในการลดหย่อนภาษีไปอย่างน่าเสียดาย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวม 3 เรื่องควรระวังสำหรับคนที่ต้องการใช้สิทธิช้อปดีมีคืน ดังนี้ 1. ซื้อสินค้า/บริการในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น หลายคนเข้าใจผิดว่าช้อปดีมีคืนสามารถสะสมการซื้อได้ตลอดทั้งปี 2565 แต่ความเป็นจริงแล้วระยะเวลาโครงการของช้อปดีมีคืน 2565 คือ 1 ม. -15 ก. 65 หมายความว่าผู้ที่ต้องการใช้สิทธิจะต้องซื้อสินค้า/บริการ ไม่เกิน 15 ก.
ผู้เขียน: นักล่าฝัน
ประกันสังคม ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 9, 000 บาท สำหรับการลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง ในข้อนี้จะพูดถึงประกันสังคม ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้หลักประกันสำหรับพนักงานบริษัทหรือมนุษย์เงินเดือนที่อยู่ในระบบประกันสังคมทุกคน ให้ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีต่างๆ ตามที่ได้ระบุไว้ แต่หลายคนอาจลืมไปว่าประกันนี้สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ แถมยังสามารถลดหย่อนได้สูงสุดถึง 9, 000 บาทต่อปี เลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีของผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมเลยทีเดียว 9. เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200, 000 บาท ในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ จะมี 2 ประเภทคือ ประกันชีวิตทั่วไป ซึ่งสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 100, 000 บาท แต่ถ้าทำให้คู่สมรสที่ไม่มีรายได้จะหักเบี้ยประกันได้สูงสุด 10, 000 บาท และอีกประเภทคือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200, 000 บาท แต่เงื่อนไขสำคัญสำหรับการใช้เบี้ยประกันชีวิตในการลดหย่อนภาษีนั้น จะต้องถือกรมธรรม์ที่คุ้มครองอย่างน้อย 10 ปี และต้องจ่ายเบี้ยให้ครบตามกำหนดสัญญา หากยกเลิกก่อนเวลาจะต้องเสียภาษีย้อนหลังจากที่ขอลดหย่อนไปแล้วด้วย 10.
1) เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากของ "หน่วยรับบริจาค" (2.
สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งของหน่วยรับบริจาค 2. สำเนาหนังสือแต่งตั้งผู้มีอำนาจ 3. สำเนาบัตรประจำตัวผู้มีอำนาจที่ลงนาม ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดบัญชีกับธนาคารที่ร่วมโครงการ โดยบัญชีธนาคารจะส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรได้ ต้องเป็นบัญชีของหน่วยรับบริจาค ซึ่งผู้มีอำนาจลงนามเป็นคนเปิดบัญชี และต้องเป็น "บัญชีสำหรับการรับบริจาค" เท่านั้น เมื่อมีคนบริจาคเงินมาหน่วยรับบริจาคต้องบันทึกข้อมูลการรับบริจาค ผ่าน e-Donation ระบบนี้ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่ม และไม่จำเป็นต้องพิมพ์หลักฐานการบริจาค เว้นแต่ว่าคนบริจาคจะขอเอง ส่วนข้อมูลที่หน่วยงานรับบริจาคบันทึก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ บุคคลธรรมดา จะบันทึกแค่การบริจาคเงิน จำนวนเงินที่บริจาค แต่สำหรับนิติบุคคล จะต้องบันทึกข้อมูล 4 อย่าง ได้แก่ 1. เลขประจำตัว 13 หลักของผู้บริจาค 2. ชื่อ-สกุล ชื่อนิติบุคคล (ระบบจะค้นหาและแสดงอัตโนมัติ) 3. วัน เดือน ปีที่บริจาค 4. มูลค่าทรัพย์สิน จะเห็นว่าโครงการ e-Donation บริจาคเงิน ทำบุญออนไลน์ แล้วนำไปลดหย่อนภาษีได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งคนบริจาค องค์กรที่รับบริจาค หรือแม้กระทั่งนิติบุคคลที่บริจาค สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า การทำบุญในยุคที่อินเทอร์เน็ตเฟื่องฟูเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าทำบุญแล้วได้ลดหย่อนภาษีด้วยก็ย่อมดีกว่า ยุค New normal แบบนี้ โอนเงินทำบุญน่าจะเป็นวิธีที่เซฟที่สุด เพราะนอกจากลดเสี่ยงโรคโควิด-19 ยังได้ช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ ช่วยเหลือโรงพยาบาล ช่วยเหลือเด็กๆ และช่วยเหลือศาสนา แถมยังได้ ลดหย่อนภาษี อีกด้วย.
สรรพากรพัฒนาระบบ My Tax Account เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษี สามารถตรวจสอบสิทธิค่าลดหย่อนได้ผ่านทางระบบ My Tax Account และนำข้อมูลไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ทันที รวมทั้งตรวจสอบสถานะการคืนภาษีและนำส่งหลักฐานได้รวดเร็วขึ้น ค่าลดหย่อนที่สามารถตรวจสอบผ่านทางระบบ My Tax Account มีดังนี้ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ เงินบริจาคผ่านระบบ e-Donation เงินสะสมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข. ) เบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เบี้ยประกันสุขภาพบิดา มารดา ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้าง ที่อยู่อาศัย (กรณีกู้คนเดียว) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผ่านการยินยอมให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช. ) ทั้งนี้ ข้าราชการสามารถตรวจสอบข้อมูลเงินได้จากกรมบัญชีกลางผ่านระบบ My Tax Account ได้ด้วย อ้างอิง: ข้อมูลจากกรมสรรพากร