ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
เว็บไซต์ หนึ่งในระบบที่มีผู้ใช้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก หรือบริษัทใหญ่ ต่างสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเองขึ้นมาเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ที่มีอยู่ทั่วโลก จากผู้ใช้ที่มีทั่วโลกทำให้ปัจจุบันการตั้งชื่อเว็บไซต์ จึงต้องอาศัยเทคนิค ในการตั้งชื่อให้ถูกต้อง จำง่าย และทำให้ Google สามารถค้นหาเว็บไซต์ได้เจอ เทคนิค ตั้งชื่อเว็บไซต์อย่างไรให้ปัง 1. ตั้งชื่อเว็บไซต์ให้สั้นที่สุด การตั้งชื่อเว็บไซต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะชื่อเว็บไซต์ยิ่งสั้นเท่าไหร่ ผู้ที่จะเข้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณยิ่งจดจำชื่อเว็บไซต์ของคุณได้ ความยาวของชื่อเว็บไซต์ควรจะอยู่ที่ 1-5 พยางค์ ตัวอย่างการตั้งชื่อเว็บไซต์แบบสั้นๆ จดจำง่าย Google Facebook Instagram Twitter Apple 2. ควรตั้งชื่อเว็บไซต์ให้อ่านง่าย จำง่าย และสะกดง่าย การตั้งชื่อเว็บไซต์ ควรจะตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ จำง่าย อ่านง่าย และสะกดง่าย ซึ่งจะเป็นข้อดีในระยะยาวที่ลูกค้า หรือผู้เข้ามาใช้งานในเว็บไซต์จะจดจำ และสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ถูกต้อง 3. พยายามตั้งชื่อเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับธุรกิจที่ทำ นอกจากการตั้งชื่อเว็บไซต์ให้จดจำง่ายแล้ว ชื่อของเว็บไซต์ควรจะสื่อถึงธุรกิจของคุณที่ทำ เพื่อที่จะได้ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ตรงเป้าหมาย ตัวอย่างการตั้งชื่อเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ เว็บไซต์ขายสินค้า เว็บไซต์ข่าวบันเทิง เว็บไซต์ข่าว 4.
ต้องเป็นชื่อภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง มีความยาว 2 – 46 ตัวอักษร 2. ต้องไม่มีสัญลักษณ์พิเศษ เช่น @! #$%^&*()_+= 3.
ขั้นตอนที่ 1 การวางแผนการจัดทำเว็บไซต์ เป็นขั้นตอนแรกของการออกแบบเว็บ เนื่องจากเราต้องกำหนดชื่อเรื่อง เนื้อหา และรายละเอียดของเว็บที่เราจะจัดทำเพื่อให้เห็นมุมมองคร่าว ๆ ก่อนจะลงมือสร้างเว็บไซต์ นอกจากนี้เรายังต้องทำการแบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ตามลำดับก่อน-หลัง เพื่อให้ง่ายต่อการจัดทำโครงร่างของเว็บ ขั้นตอนที่ 2 การกำหนดโครงสร้างของเว็บ เป็นขั้นตอนในการกำหนดผังของเว็บ เพื่อให้ทราบองค์ประกอบทั้งหมดของเว็บ ตัวอย่างดังรูป ข้อสังเกต 1. หน้าแรกของเว็บ หรือโฮมเพจ จะต้องชื่อ index ส่วนนามสกุลให้ใส่ตามลักษณะของภาษาที่ใช้ในการสร้างเว็บ 2. การตั้งชื่อเว็บเพจแต่ละหน้าเวลาให้กำหนดชื่อเป็นภาษาอังกฤษตามด้วยนามสกุลของภาษาที่เราสร้างเว็บ เช่น,, เป็นต้น ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดการเชื่อมโยงเว็บเพจ การกำหนดการเชื่อมเว็บเพจ เป็นการกำหนดความสัมพันธ์ของการเชื่อมโยงในแต่ละหน้าเว็บเพื่อให้สามารถกลับไปกลับมาระหว่างหน้าต่าง ๆ ได้ โดยแต่ละไฟล์จะมีความสัมพันธ์กัน ตัวอย่างดังรูป ขั้นตอนที่ 4 การตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ 1. การสร้างโฟลเดอร์ การสร้างโฟลเดอร์ให้สร้างเป็นชื่อหน่วยงาน / เรื่องนั้น ๆ ควรใช้ตัวอักษร ภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก หรือผสมกับตัวเลข 0-9 เช่น thm คือ โรงเรียนท่าใหม่ "พูลสวัสดิ์ราษฎร์นุกูล" จากนั้นข้างใน โฟลเดอร์ thm ให้เราสร้างโฟลเดอร์เก็บรูปภาพ พื้นหลัง ไฟล์เสียง ไฟล์วีดีโอ หรือโฟลเดอร์อื่นเป็นชื่อภาษาอังกฤษ เช่น pic คือโฟลเดอร์เก็บรูปภาพ, bg คือ โฟลเดอร์เก็บพื้นหลัง เป็นต้น 2.
Post Views: 1, 683 สำหรับนักพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน ที่จะต้องทำหน้าที่ครบวงจร (Full Stack Programer) สิ่งที่ต้องทำหลังจากพัฒนาเว็บขึ้นมาเสร็จแล้ว คือการติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ (Deploy) ในบทความนี้จะเล่าขั้นตอนหลักๆ ในการติดตั้งเว็บไซต์ ที่พัฒนาด้วย (ไม่ว่าจะพัฒนาด้วย Framework เวอร์ชันไหนก็ขั้นตอนเดียวกัน เปลี่ยนแปลงแค่ Runtime ที่ใช้งาน) บนวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ IIS (Internet Information Services) ซึ่งหน้าตาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามเวอร์ชันของ IIS แต่ขั้นตอนการตั้งค่ายังคงคล้ายคลึงกัน Publish เว็บไซต์ (กรณีใช้ Visual Studio) 1. คลิกขวาที่ชื่อโปรเจ็ค เลือก Publish 2. จะได้หน้าจอเลือกประเภทในบทความนี้เลือกเป็น Folder เพื่อใช้วิธีการ Deploy แบบนำไฟล์ไปวางที่ Server เอง ดังรูป 3. เลือกที่ตั้งไฟล์ กด Finish 4. ตั้งค่าการ Publish จากในรูปคือให้ลบไฟล์ที่มีอยู่ก่อน และใช้รูปแบบ Release ในการ Compile 5. ตัวอย่างไฟล์ที่ทำการ Publish เสร็จแล้ว 6. ทำการ Copy ไฟล์ทั้งหมดไปวางใน wwwroot บน Server ติดตั้ง Component ต่างๆ 1. ในบทความนี้ใช้ Windows Server 2016 Datacenter เป็นตัวอย่าง ซึ่งการติดตั้ง Component ต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน Server Manager > Manage > Add Roles and Features ได้เกือบทั้งหมด ยกเว้น Runtime อื่นๆที่เว็บไซต์มีการนำมาใช้งานเพิ่มเติม 2.
ตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ความหมายไม่แคบจนเกินไป การตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ดี ควรจะตั้งชื่อเว็บไซต์ให้มีความหมายกว้างๆ เพราะจะทำให้การขยายธุรกิจในภายหลังเป็นเรื่องง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเริ่มต้นคุณขายกุหลาบ แต่ภายหลังคุณอาจจะขายดอกไม้อื่นๆที่เพิ่มขึ้น คุณจึงไม่ควรจะตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ความหมายแคบ 9. ระมัดระวังการตั้งชื่อที่คล้าย หรือเหมือนเว็บไซต์อื่นๆ การตั้งชื่อเว็บไซต์ คุณควรจะตั้งชื่อที่มีเอกลักษณ์ แสดงถึงความโดดเด่นของแบรนด์ การตั้งชื่อเว็บไซต์ที่คล้าย หรือเหมือนอาจจะทำให้ผู้ที่จะเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ เกิดความสับสน และมีโอกาสที่จะเข้าไปในเว็บไซต์อื่นๆ 10.
การตั้งชื่อไฟล์ การตั้งชื่อไฟล์ให้ตั้งชื่อและนามสกุลไฟล์เป็นตัวอักษร ภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก หรือผสมกับตัวเลข 0-9 หรือเครื่องมือขีดลบ/ขีดล่าง และตั้งชื่อไฟล์ให้ตรงกับเรื่องนั้น ๆ เช่น คือ ประวัติของโรงเรียน, คือ บุคลากรของโรงเรียน เป็นต้น ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเว็บเพจแต่ละหน้าในเว็บไซต์ ส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ดี โครงสร้างของเว็บไซต์โดยจะมีส่วนหลักๆอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ 1. ส่วนหัวของหน้า ( Page Header) เป็นส่วนที่อยู่ตอนบนสุดของหน้า และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของหน้า เพราะเป็นส่วนที่ดึงดูดผู้ชมให้ติดตามเนื้อหาภายในเว็บไซต์ มักใส่ภาพกราฟิกเพื่อสร้างความประทับใจ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย · โลโก้ ( Logo) เป็นสิ่งที่เว็บไซต์ควรมี เป็นตัวแทนของเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เว็บน่าเชื่อถือ ชื่อเว็บไซต์ เมนูหลักหรือลิงค์ ( Navigation Bar) เป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาของเว็บไซต์ 2. ส่วนของเนื้อหา ( Page Body) เป็นส่วนที่อยู่ตอนกลางของหน้า ใช้แสดงข้อมูลเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งประกอบด้วยข้อความ, ตารางข้อมูล ภาพกราฟิก วีดีโอ และอื่นๆ และอาจมีเมนูหลัก หรือเมนูเฉพาะกลุ่มวางอยู่ในส่วนนี้ด้วย สำหรับส่วนเนื้อหาควรแสดงใจความสำคัญที่เป็นหัวเรื่องไว้บนสุด ข้อมูลมีความกระชับ ใช้รูปแบบตัวอักษรที่อ่านง่าย และจัด Layout ให้เหมาะสมและเป็นระเบียบ 3.