ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
การฝึก strength มีนิยมมากในปัจจุบันของนักกีฬาคือ Isometric Exercise และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือการฝึกแบบ Calisthenics หรือการฝึกโดยใช้แค่น้ำหนักตัว (body weight) ในการออกกำลัง นี่ก็ strength training นะ ที่อยากฝากไว้คือ ไม่ว่าจะเล่น POWER หรือ STRENGTH หรือ SPEED ร่างกายจะ Lean หรือไม่ขึ้นอยู่กับโภชนาและการพักผ่อนด้วยครับ การฝึกเป็นเพียง 1 ใน 3 สิ่งสำคัญเท่านั้นครับ
2 การฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและเพื่อการแข่งขัน 5. 2. 1 การฝึกแบบทําซ้ํา (Repetition Training) เป็นการฝึกโดยกําหนดระยะทาง จํานวนเที่ยวและการพักระหว่างเที่ยวที่ฝึกอย่างชัดเจน แต่ไม่กําหนดความเร็วของแต่ละเที่ยว ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกจะกําหนดตามความเหมาะสมของร่างกาย 5. 2 การฝึกแบบมีช่วงพัก (Interval Training) เป็นการฝึกที่กําหนดอัตราและระยะทาง จํานวนเที่ยวที่ฝึก เวลาที่ใช้ในแต่ละเที่ยว เวลาที่พักกิจกรรมที่ต้องทําขณะพัก และความถี่ของการฝึกต่อสัปดาห์และตลอดกําหนดการฝึกไว้แน่นอน 5. 3 การฝึกแบบสปีดเอนดูแรนซ์ (Speed Endurance) เป็นการฝึกวิ่งเพื่อเสริมสร้างความทนทานแบบแอโรบิก (Aerobic Endurance) โดยกําหนดระยะทางไม่เกิน 500 เมตร ใช้ความเร็ว ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ จํานวน 4-8 เที่ยว พักระหว่างเที่ยว 5-6 นาที โดยการพักยึดหลักไม่ให้หายเหนื่อย เพื่อให้เป็นหนี้ออกซิเจน (Oxygen Debt) แล้วเริ่มฝึกเที่ยวใหม่ต่อไป 5. 4 การฝึกแบบเทมโป (Tempo) แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1) เทมโป เอนดูแรนซ์ (Tempo Endurance) โดยการกําหนดระยะทางการฝึกให้มากกว่าที่แข่งขันจริง (ไม่ควรเกิน 5, 000 เมตร) ใช้ความเร็วประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ จํานวน 4-8 เที่ยว พักระหว่างเที่ยว 3-6 นาที 2) คอมเพททิทีฟ เพซ (Competitive Pace) โดยการกําหนดระยะทางให้น้อยกว่าที่แข่งขันจริงใช้ความเร็วเท่าๆ กับที่แข่งขันจริง จํานวน 3-6 เที่ยว พักระหว่างเที่ยว 8-12 นาที 5.
30 -6. 00 tempo 4. 35 หลังจากเข้า Avarin Smart Run New PB 10 K ค่า Vo2 max ใน Garmin ผมแตะเกือบ 60 วิ่ง Easy ได้ 5. 20 - 5. 50 Tempo ได้ 4.
การหายใจ ทักษะพื้นฐานของการว่ายน้ำที่มักถูกมองข้าม คือ ทักษะในการหายใจ โดยหากคุณไม่สามารถทำท่าหายใจได้ดี คุณจะพบว่าคุณไม่สามารถทำวางตัวในท่าทางที่ลู่น้ำ (streamline) ได้ รวมถึงไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของคุณได้ดี ซึ่งพื้นฐานก็คือ การพ่นลมออกผ่านทั้งจมูกและปาก เมื่อใบหน้าอยู่ในน้ำ จากนั้นบิดหน้าขึ้นด้านข้าง (สำหรับท่าฟรีสไตล์) แล้วทำการหายใจเข้าให้เต็มที่ ก่อนจะบิดใบหน้าลงในน้ำ ในหนังสือ "Swimming: Steps to Success, " ของ David G. Thomas แนะนำวิธีฝึกบิดหน้าหายใจไว้ว่า ให้ฝึกด้วยการยืดแขนข้างหนึ่งจับขอบสระ ส่วนมืออีกข้างวางไว้ข้างลำตัว แล้วทำการฝึกบิดหน้าขึ้นด้านข้างเพื่อหายใจ 2. การไหลร่อน (Gliding) โค้ช Ian Cross แนะนำไว้ว่า การไหลร่อนไปในน้ำ คือทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต้องฝึกให้ชำนาญ ก่อนที่จะก้าวไปฝึกเตะขา และตะกุยน้ำ การไหลร่อนไปในน้ำจะช่วยให้คุณได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการพุ่งทะลุน้ำไปข้างหน้า ให้พยายามเริ่มฝึกด้วยการออกจากผนังสระเบาๆ ในท่าแขนเหยียดตรงเหนือศีรษะ และคว่ำหน้ามองที่พื้น และไหลร่อนไปจนกว่าจะรู้สึกได้ว่าความเร็วเริ่มตก 3. การใช้ปลายนิ้วมือสัมผัสน้ำเป็นส่วนแรก มือของคุณจะต้องทำการเสียบทะลุผิวน้ำเป็นส่วนแรกของร่างกาย ตามด้วยข้อศอก หลายคนมักละเลยหรือไม่ได้ทำการตั้งศอกให้มากพอ นั่นทำให้ท่อนแขนทั้งท่อนของคุณสัมผัสน้ำพร้อมๆกันในตอนวางมือ ซึ่งจะเกิดการต้านน้ำเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับการใช้ปลายมือเสียบทะลุน้ำตามด้วยข้อศอก นอกจากนั้นในการวางแขนตรงๆลงน้ำ จะทำให้คุณเริ่มจังหวะดึงน้ำให้มีประสิทธิภาพได้ยากมาก 4.
วิ่ง, วิ่งโซน2, วิ่งโซนสอง, เทคนิคการวิ่ง, วิ่งเร็ว, Run. ประยุกต์ท่าวิ่งโซน 2 มาพัฒนาความเร็ว. ท่าวิ่งโซน 2. เราหวังว่าค่านิยมบางอย่างที่เรามอบให้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอขอบคุณที่อ่านบทความของเราเกี่ยวกับท่าวิ่งโซน 2 Josh Duhamel Josh Duhamel เป็นบล็อกเกอร์ที่ชอบแบ่งปันความรู้ด้านกีฬาของเขาเขายังเป็นเทรนเนอร์ร่างกายที่ทํางานหนัก หัวข้อที่ Custer Cyclery รวมถึงมวยยิมโยคะฟิตเนสขี่จักรยานและข้อมูลกีฬาอื่น ๆ คุณจะพบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้ที่:
Tempo การซ้อมที่ทรมานบันเทิงที่สุด!!
ต่อเนื่องจากบทความ Strength training กี่ครั้งกี่รอบ หนักเบาเท่าไหร และ 5 กระบวนท่าฝึกกล้ามเนื้อเพิ่มความเร็ว นักปั่นตัวยงคงจะได้ไอเดียไปแล้วว่า นอกเหนือจากการนั่งปั่นจักรยานเพียงอย่างเดียว การฝึก Strength training ก็สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการปั่นได้ด้วย การฝึก Strength ที่นิยมกันคือ 1.