ดอกลำโพง 18 นิ้ว 2242
ออกมาเล่าการต่อตั้งพระพุทธศาสนา ให้เพื่อน ๆ 6/13 ฟัง ในวิชาศาสนา โดยการเล่าปากเปล่า 1. ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ช่วยกันคิดกับเพื่อน ๆ ในการแต่งกาย และเต้นประกอบเพลง Indang Dance หน้าเสาธง 2. ความสามารถในการคิด หมายถึง รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ร้องเพลงลูกกรุงในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แก้ปัญญาคิดเนื้อเพลงไม่ออก โดยการตั้งสติและดูเนื้อร้องจากปากเพื่อน 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถึง เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ ในห้องได้อย่างเหมาสม โดยไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาท กัน 4.
การคิดอย่างมีจุดมุ่งหมาย เป็นการคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยใช้เหตุและผล พิจารณาสถานการณ์ หรือข้อมูลต่าง ๆ 1. 1 การคิดให้ลึกเชิงวิเคราะห์ จำแนกแจกแจงองค์ประกอบ วิเคราะห์เปรียบเทียบ 1. 2 การคิดให้กว้างอย่างสร้างสรรค์ ขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิม 1. 3 การคิดแบบบูรณาการ เชื่อมโยงความคิดหรือองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าหาแกนหลักได้อย่างถูกต้อง 1. 4 การคิดในภาพรวมทั้งระบบการคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเป็นระบบ ลำดับ ขั้นตอน 1. 5 การคิดเชิงวิพากษ์ความตั้งใจที่จะพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 1. 6 การคิดเชิงวิเคราะห์การคิดที่สามารถดึงองค์ประกอบต่าง ๆ มาผสมผสานเข้ากัน 1. 7 การคิดเชิงเปรียบเทียบพิจารณาความเหมือนและต่าง 1. 8 การคิดเชิงมโนทัศน์ความสามารถในการประสานข้อมูล เรื่องใดเรื่องหนึ่งมาสร้างเป็นความคิดรวบยอด 1. 9 การคิดเชิงประยุกต์นำสิ่งที่มีอยู่เดิมไปปรับใช้ประโยชน์ในบริบทใหม่ได้เหมาะสมโดยหลักการเดิม 1. 10 การคิดเชิงกลยุทธ์กำหนดแนวทางที่ดีที่สุดภายใต้เงื่อนไข ข้อจำกัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 1. 11 การคิดเชิงอนาคตความสามารถในการคาดการณ์ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีหลักเกณฑ์ ขยายขอบเขตการมองให้กว้าง 2.
วิธีการคิด (Operation) หมายถึง ลักษณะกระบวนการทำงานของสมองแบบต่างๆ มี 5 แบบ ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ ความจำ การคิดแบบเอกนัย (Convergent Thinking) การคิดแบบอเนกนัย และการประเมินผล 3. ผลของการคิด (Product) เป็นผลของกระบวนการจัดกระทำของความคิดกับข้อมูลเนื้อหา ผลิตผลของความคิดออกมาเป็นรูปแบบต่างๆ การแปลงรูป และการประยุกต์จากแบบทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ดนี้ จะเห็นว่าองค์ประกอบส่วนหนึ่งในมิติที่ว่าด้วยการคิดแบบอเนกนัยมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความคิดสร้างสรรค์ และองค์ประกอบส่วนหนึ่งในมิติที่ว่าด้วยผลของคิดที่เรียกว่า การแปลงรูปเป็นส่วนที่แสดงถึงความคิด อ้างอิงจาก อารี รังสินันท์. (2527). ความคิดสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ: ธนกิจการพิมพ์. Guilford, J. P. (1967). The Nature of Human Intelligence. New York: McGraw-Hill Book Co.
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณภาพผู้เรียนด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1. ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด หมายถึง รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถึง เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4.
ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียนรัฐบาลส่วนใหญ่ในประเทศไทย คือหลักสูตรแกนกลางของการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อนุบาล 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6) ที่มุ่งเน้นการวัดผลแบบสมรรถนะหรือการประยุกต์ใช้สิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้แทนการท่องจำเนื้อหา โดยมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรฐานสมรรถนะ นี้จะเริ่มโครงการนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาใน 8 จังหวัดนำร่อง ครอบคลุม 265 โรงเรียนในสังกัดต่าง ๆ ในปี 2565 และจะใช้อย่างเป็นทางการในทุกโรงเรียนในปี 2567 หลักสูตรฐานสมรรถนะ 2565 ได้กำหนด แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะหลัก 6 ด้าน ได้แก่ 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง 2. สมรรถนะการคิดขั้นสูง 3. สมรรถนะการสื่อสาร 4. สมรรถนะการรวมพลังทำงานเป็นทีม 5. สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และ 6. สมรรถนะการอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน โดยสมรรถนะหลักเหล่านี้มีลักษณะไม่ขึ้นกับเนื้อหาของศาสตร์ใด ๆ แต่มีองค์ความรู้เชิงกระบวนการที่อาจประยุกต์ใช้กับศาสตร์หนึ่งหรือบูรณาการเข้ากับหลายศาสตร์เป็นองค์ประกอบสำคัญ 1. สมรรถนะการจัดการตนเอง หมายถึง การที่ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าในมนุษย์ทุกคนรู้จักการพัฒนาสติปัญญา ตั้งเป้าหมายชีวิต กำกับตนเองให้รู้จักจัดการอารมณ์ ปัญหา และภาวะวิกฤต จนสามารถเข้าสู่สภาวะสมดุล (Resilience) เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย อีกทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงและความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น จากความหมายนี้อาจกล่าวได้ว่าสมรรถนะการจัดการตนเองมีอยู่ 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) การเห็นคุณค่าของมนุษย์ 2)การมีเป้าหมายในชีวิต 3) การจัดการอารมณ์ 4) การจัดการปัญหาและภาวะวิกฤต 2.